เมื่อดิน น้ำ และฟ้า ปนเปื้อนมลพิษเสียแล้ว ความหวังที่จะดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ที่เอื้อต่อสุขภาพจะเป็นไปได้หรือ สังคมไทยพัฒนาจากสังคมเกษตรกรรมเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม ด้วยพลังแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ารวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และไม่แพ้ประเทศใดๆ ในโลก
หากแต่ด้านหนึ่งหลายชุมชน หลายพื้นที่ในประเทศไทยวันนี้พัฒนามาถึงจุดที่คนไม่กล้ารองน้ำฝนดื่ม ไม่อาจจะใช้น้ำในบ่อข้างบ้าน ไม่อาจจะหาปลาในลำห้วย ลำคลอง แม่น้ำ ทะเล พืชผักในธรรมชาติหรือข้าวในนาของชาวนาไม่อาจจะเก็บเกี่ยว มาบริโภคได้ ดินเปื้อนพิษ หรือกระทั่งอากาศที่หายใจเข้าไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีผู้คนเจ็บไข้ได้ ป่วยจากมลพิษดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าสังคมไทยพัฒนาขึ้นมาแล้วจากอดีต เพราะภาวะวิกฤตสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม และสุขภาพที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่เพิ่มมากขึ้นทุกวันในทุกหัวระแหง
นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการผลิตภาคอุตสาหกรรมมากมาย เป็นปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจของไทย ขณะเดียวกันก็มีกากของเสียหรือสารพิษอันตรายจากการผลิตดังกล่าวทิ้งไว้โดย ไม่มีการจัดการที่เหมาะสม สะท้อนให้เห็นสภาวะ “ไร้ความรับผิดชอบ” ของคนในสังคมนี้ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในสังคมเอง เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรม ได้นำพาสังคมไทยมาสู่เส้นทางนี้ หากยังคงมุ่งมั่นพัฒนาไปอย่างที่เคยเป็นมาไม่ช้าก็เร็วประเทศไทยจะกลายเป็น “ประเทศเปื้อนพิษ”
(บางส่วนจาก "คู่มือนำชมนิทรรศการและเสวนา เปื้อนพิษประเทศไทย")
คลิกที่รูปเพื่อ download เอกสาร (12 mb. / zip file)
จาก : http://www.thia.in.th/welcome/article_read/300
วันที่ลงข่าว 18-08-2556
โดย : นิรันดร กาบบัว