Published on Feb 20, 2018
ด้วยปัจจัยที่แตกต่างหลากหลาย เช่นภาวะผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ลูกหลานต้องทำงานไกลบ้าน ทำให้ในบางครั้งผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกจึงออกแบบ นวัตกรรมให้ตอบโจทย์ข้อจำกัด ด้วยการทำให้ผู้ป่วยและทีมแพทย์สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ติดตามรายละเอียด ในรายงานพิเศษ ชุด พิษณุโลก ต้นแบบ สาธารณสุขเชิงรุก กับคุณจันทราภรณ์ สุวรรณสิทธิ์

TNN24 ออกอากาศทางทีวีช่อง 16

https://m.youtube.com/watch?v=DwvhAS92lAM

นอกจากนี้ มน กับ สสจ ได้ทำงานวิจัยร่วมกันต่อโครงการระยะ 2

นายแพทย์ภาณุมาศ  ญาณเวทย์สกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ ๒ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ความร่วมมือทางวิชาการโครงการพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีที่ช่วยในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการสุขภาพทางไกลโดยผ่านเครือข่ายดิจิทัลความเร็วสูงระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกโดยนายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกกับมหาวิทยาลัยนเรศวรโดยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา  เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีผู้บริหารของโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง รวมทั้งสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอร่วมลงนามเป็นสักขีพยานในวันศุกร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุม ๘๐๑ ชั้น ๘ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา ๒ มหาวิทยาลัยนเรศวร
 โครงการดังกล่าว มีความมุ่งหวังในการพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีผ่านระบบเครือข่ายดิจิทัลความเร็วสูง โดยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูล ระบบการให้คำปรึกษาระหว่างโรงพยาบาลที่มีศักยภาพต่างกัน ระบบการส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพและป้องกันโรคเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกลุ่มผู้ใช้ทุกระดับ ทั้งภาคประชาชนอาสาสมัครสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้มีฟังก์ชั่นการปฏิบัติงานที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ หลากหลายและเหมาะสมใช้งานในทุกที่ทุกเวลา(anywhere,anytime)เชื่อมโยงระบบการบริการสุขภาพตั้งแต่ภาคประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์และโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนสนับสนุนการก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ(smart city)และพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีการขยายผลทั่วทั้งประเทศ รองรับการก้าวสู่ประเทศไทย ๔.๐อย่างยั่งยืนต่อไป