โครงการเสวนาวิชาการด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม กฎหมาย และสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
หัวข้อ
“แนวการปฏิบัติและความก้าวหน้าของวิศวกรรมกรฟื้นฟูดินและน้ำใต้ดินปนเปื้อนสารอันตราย: เรียนรู้จากมุมมองสากล”
(Practices and Advances of Groundwater and Soil Remediation: International Perspectives)
ปัจจุบันประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีพื้นที่ที่ดินและน้ำใต้ดินอาจจะปนเปื้อนด้วยสารอันตรายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์และระบบนิเวศมากมายหลายพื้นที่ ดังจะเห็นได้จากการรายงานข่าวการรั่วไหลของสารอันตรายสู่สิ่งแวดล้อมแทบจะทุกวัน ในขณะที่มีความพยายามจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และสถาบันการศึกษาในการทำงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ปนเปื้อนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่กลับยังไม่มีพื้นที่ใดที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มรูปแบบจนกำจัดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการปนเปื้อนสารอันตรายได้ทั้งหมด งานวิจัยด้านการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนสารอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งดินและน้ำใต้ดินเป็นงานวิจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทยและการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศ ด้วยเหตุนี้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านงานวิจัยและการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนในภาคสนามระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่มีประสบการณ์ในการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนมาก่อนหน้าอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศไต้หวัน จึงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาทางวิชาการและการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนสารอันตรายอย่างเหมาะสมสำหรับประเทศไทย
ด้วยเหตุนี้ สถานความเป็นเลิศเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ สิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม และ หน่วยวิจัยเชิงบูรณาการด้านการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนและการนำทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ใหม่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะสถานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยการจัดการดินและน้ำใต้ดินปนเปื้อนสารอันตราย จึงร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัท TESC ประเทศไต้หวัน เป็นเจ้าภาพร่วมกันเพื่อจัดเวทีเสวนาวิชาการด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
หัวข้อ “แนวการปฏิบัติและความก้าวหน้าของวิศวกรรมกรฟื้นฟูดินและน้ำใต้ดินปนเปื้อนสารอันตราย: เรียนรู้จากมุมมองสากล”(Practices and Advances of Groundwater and Soil Remediation: International Perspectives) เพื่อสร้างโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลทางวิชาการ ระหว่างภาคเอกชนที่ครอบครองพื้นที่ปนเปื้อน หรือมีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนสารอันตราย หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ และ สถาบันการศึกษาที่ทำงานวิจัยด้านการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน นักวิจัยสิ่งแวดล้อม ภาพประชาสังคม และประชาชนที่สนใจทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน อันจะนำมาสู่การทำงานวิจัยร่วมกันในเชิงปฏิบัติเพื่อนำมาสู่การพัฒนาองค์ความรู้ในการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน การป้องกัน การเฝ้าระวังการปนเปื้อนสารอันตรายในดินและน้ำใต้ดินสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อสร้างเสริมกระบวนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลวิชาการและประสบการณ์การวิจัยในด้าน การฟื้นฟูน้ำใต้ดินและดินที่ปนเปื้อนสารอันตรายจากประสบการณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ไทยและภูมิภาคอาเซียน
2.2 เพื่อก่อให้เกิดการบูรณาการงานวิจัย รวมทั้งการต่อยอดองค์ความรู้เพื่อเป็นแนวทางการจัดการพื้นที่ปนเปื้อน สารอันตรายในดินและน้ำใต้ดินของภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคเอกชนที่ครอบครองพื้นที่ปนเปื้อน และมีประสบการณ์ในการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ และ สถาบันการศึกษาที่ทำงานวิจัยด้านการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน
3. ขอบเขตเนื้อหา/วิธีการดำเนินการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประกอบด้วยการอภิปรายในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการสอบถาม และเสนอข้อคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังมีรายละเอียดขอบเขตเนื้อหา ดังนี้
(1) การอภิปรายเพื่อนำเสนอองค์ความรู้ ข้อมูลวิชาการ และประสบการณ์การวิจัยตามร่างกำหนดการดังแนบ
(2) การซักถามและอภิปลายในลักษณะ เวทีเสวนาเปิดเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ในด้านต่างๆ และข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้อง ระหว่างผู้เข้าร่วมเวทีโดยมีผู้ดำเนินรายการ กระตุ้นและสร้างบรรยากาศให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
6. ระยะเวลาดำเนินการ
วันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ กรมควบคุมมลพิษ
7. หน่วยงานรับผิดชอบ
สถานความเป็นเลิศเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ สิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
หน่วยวิจัยเชิงบูรณาการด้านการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนและการนำทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ใหม่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ
บริษัท TESC ประเทศไต้หวัน
รายละเอียดเอกสารเพิ่มเติม